หากพูดถึงยาทารักษาสิวต้องบอกว่ามีเยอะจริงๆ มีหลายตัวยา หลายยี่ห้อ ช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหนอง สิวหัวดำ และสิ้วเสี้ยนได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายคนสงสัยว่า ยาทาสิวแต่ละตัวมีวิธีใช้อย่างไร? ตัวไหนทาก่อนล้างหน้า? ตัวไหนทาหลังล้างหน้า? ตัวไหนทาตอนเช้า? ตัวไหนทาก่อนนอน? สับสนไปหมด วันนี้ผมจะมาแนะนำ "วิธีทายารักษาสิว" แต่ละตัวให้ครับ
1. Benzac ac
Benzac ac คือ ยาทารักษาสิวที่มีส่วนผสมของตัวยา benzoyl peroxide หรือ BP เหมาะกับสิวอักเสบ สิวหนอง สิวหัวช้าง สิวเสี้ยน ใช้ลดการอุดตันของสิวได้นิดหน่อย ในไทยมี 2 ความเข้มข้น คือ 2.5% กับ 5%วิธีใช้
- ใช้ทาก่อนล้างหน้า ถ้าทาครั้งแรกให้ทาทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วล้างออก พอผิวหน้าเริ่มชินสามารถเพิ่มเวลาเป็น 10-15 นาทีได้ ทาวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น แต่ถ้าใครรู้สึกหน้าลอก เป็นขุย หรือแสบหน้าเวลาทาครีม อาจลดความถี่ในการทาลงเป็นทาวันละครั้งช่วงเย็นได้ครับ
- ใช้ Benzac แต้มหัวสิวที่อักเสบ แต้มทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก ช่วยลดการอักเสบของสิวได้เป็นอย่างดีครับ
2. Retin-a
Retin-a หรือ Tretinoin คือ ยาทารักษาสิวกรดวิตามินเอ เป็นยารักษาสิวในยุคแรกๆ เหมาะกับสิวอุดตัน สิวหัวดำ สิวไม่มีหัว สิวเสี้ยน สิวหัวขาว ตัวยาค่อนข้างระคายเคืองผิว ใครผิวแห้งแพ้ง่ายอาจต้องระวังเป็นพิเศษ มี 2 ความเข้มข้น คือ 0.025% กับ 0.05% ความเข้มข้นมากยิ่งระคายเคืองเคืองผิวมากวิธีใช้
ใช้ยารักษาสิวอุดตัน retin-a ทาหลังล้างหน้า วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก ทาบางๆประมาณแนะนำคือเท่าเมล็ดถั่วเขียว แต่ถ้าทาทั้งหน้าคงไม่พอให้เพิ่มปริมาณตามความเหมาะสม ที่สำคัญอย่าทา retin-a มากเกินไป และควรทาตอนหน้าแห้งสนิท ไม่ควรทาตอนเปียกเพราะตัวยาอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวหน้าได้ ไม่ควรทา retin-a ตอนกลางวัน เพราะฤทธิ์ยาจะเสื่อมสลายเมื่อโดนแสงแดด ไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์หรือมีแผนจะมีลูก ควรทายาต่อเนื่องอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์เพื่อผลการรักษาสิวที่ดี3. Differin
Differin คือ ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของตัวยา Adapalene 0.1% เป็นอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ มีสรรพคุณช่วยลดการหนาตัวของผิวชั้นบน ผลัดเซลผิว ลดการยึดเกาะของเซลผิว ช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน สิวหัวดำ สิวหัวขาว สิวเสี้ยน สิวอักเสบ ตัวยาระคายเคืองน้อยกว่า retin-a ใครรู้สึกว่าใช้ retin-a แล้วแรงไป สามารถใช้ differin ทารักษาสิวแทนได้วิธีใช้
ใช้ differin ทาหลังล้างหน้า วันละ 1 ครั้ง ก่อนนอน ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก ทายาบางๆไม่ต้องทาหนามาก ใช้ช่วงแรกอาจมีสิวขึ้นเยอะผิดปกติไม่ต้องตกใจ เป็นผลข้างเคียงเมื่อทายาช่วงแรก ประมาณ 1-2 สัปดาห์อาการผลักสิวที่ว่าจะค่อยๆดีขึ้น ไม่ควรใช้ในหญิงตั้งครรภ์หรือมีแผนจะมีลูก4. Skinoren cream
Skinoren crema คือ ยาทารักษาสิวและฝ้าในหลอดเดียว มีส่วนผสมของตัวยา Azelaic acid 20% ซึ่งมีสรรพคุณช่วยผลัดเซลผิว ลดการหนาตัวของผิวชั้นบน ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย P.acne ต้นเหตุการเกิดสิวอักเสบ ช่วยลดการอุดตันและการอักเสบของสิวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ Skinoren cream ยังช่วยยับยั้งการทำงานของเม็ดสีผิวที่ผิดปกติ ต้นเหตุการเกิดฝ้า กระ ได้อีกด้วย แต่เหมาะกับฝ้ากระที่บางๆเท่านั้นวิธีใช้
ใช้ skinoren cream ทาหลังล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ทาทิ้งไว้โดยไม่ต้องล้างออก แต่ถ้าใครทาแล้วรู้สึกแสบหน้าสามารถเปลี่ยนไปทาวันละครั้งช่วงเช้าหรือเย็นช่วงใดช่วงหนึ่ง ถ้าทาแล้วรู้สึกแสบหรือคันหน้ายิบไม่ต้องตกใจ ไม่ใช่อาการแพ้แต่เป็นผลข้างเคียงของยา พอผิวหน้าเริ่มชินอาการที่ว่าจะหายไป skinoren cream สามารถใช้ในหญิงตั้งครรภ์ได้
ใช้ยารักษาสิวเหล่านี้ร่วมกันได้หรือไม่?
ทีทั้งตัวที่ใช้ร่วมกันและที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน ตัวที่ไม่ควรใช้ร่วมกันคือ retin-a กับ Differin เพราะเป็นยารักษาสิวที่มีการออกฤทธิ์ใกล้เคียงกัน ให้เลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่งพอ ส่วน benzac ส่วนใหญ่เราใช้ทาก่อนล้างหน้าอยู่แล้วไม่ค่อยมีปัญหา แต่ถ้าใครทาหลังล้างหน้าไม่ควรทาร่วมกับ retin-a หรือ differin เพราะตัวยาอาจไปขัดการทำงานกันได้ ทาร่วมกันหมายถึงทาทับกันลงไปนะครับ แต่ถ้าใช้ทาคนละเวลา เช่น ใช้ benzac ทาตอนเช้าแล้วใช้ retin-a ทาตอนกลางคืน อย่างนี้ได้เพราะไม่ได้ทาทับกันส่วน skinoren cream ใช้กับ benzac ได้ไม่มีปัญหา ใช้ benzac ก่อนล้างหน้า หลังล้างหน้าทาด้วย skinoren cream หรือจะใช้ benzac ตอนเช้า ใช้ skinoren cream ตอนเย็นอย่างนี้ก็ได้
ส่วน skinoren cream กับ retin-a หรือ differin ให้แบ่งช่วงเวลาทา ทา skinoren cream ตอนเช้า แล้วทา retin-a หรือ differin ก่อนนอน ไม่ควรทาทับกัน
วิธีทายารักษาสิวที่ดี
- ทายาก่อนครีมบำรุง เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่
- อย่าทายาหนาหรือเยอะเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคืองได้ มีผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้นทายาบางๆก็พอ
- ควรทาครีมกันแดดร่วมด้วย เนื่องจากยารักษาสิวเหล่านี้มักทำให้ผิวหน้าไวต่อแสงแดดมากขึ้น ถ้าโดนแดดแรงๆหน้าจะดำหมองคล้ำง่าย ดังนั้นควรทาครีมกันแดดทุกครังที่ต้องออกนอกบ้าน
- หามอยเจอร์ไรเซอร์มาทาด้วยได้ ถ้ารู้สึกว่าผิวแห้งลอกเกินไป สามารถทามอยเจอร์อย่างเช่น เจลว่านหางจระเข้ , physiogel cream , cetaphil moisturizing cream , atopalm , ezerra cream ทาเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้นได้
- งดทาครีมบำรุง , ครีมหน้าขาว , ครีม whitening สักพัก รักษาสิวให้หายก่อนค่อยว่ากัน
- ควรทายาต่อเนื่องอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลการรักษาสิวที่ดี
นี่คือวิธีทายารักษาสิวแต่ละตัวที่ผมอยากแนะนำในวันนี้ การทายารักษาสิวควรใช้อย่างระมัดระวัง ศึกษาสรรพคุณและผลข้างเคียงของยาแต่ละตัวให้ดี และควรอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ปรึกษาเภสัชกรก่อนใช้ยา เพื่อให้การรักษาสิวตรงจุดมากที่สุด ผิวหน้าจะได้สวยใสไร้สิวเร็วๆยังไงล่ะครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น